ธรรมศึกษา ชั้นเอก
ปัญหา วิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรม
ระดับมัธยมศึกษา
สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๖๗
นิทฺทาสีลี สภาสีลี อนุฏฺฐาตา จโย นโร
อลโส โกธปญฺญาโณ ตํ ปราภวโต มุขํ.
คนใดมักหลับ มักคุย และไม่ขยัน เกียจคร้าน
มีความมุทะลุ ข้อนั้นเป็นเหตุของคนเสื่อม.
คัมภีร์ที่มา : ขุททกนิกาย สุตตนิบาต
แต่งอธิบายให้สมเหตุสมผล โดยใช้สุภาษิตที่สนามหลวงแผนกธรรมกำหนดมาให้ จำนวน ๖ สุภาษิตข้างล่างนี้ มาประกอบอ้างอิงเพียง ๓ สุภาษิต และสุภาษิตที่อ้างมานั้น ควรอธิบายเชื่อมความให้สมกับเรื่องในกระทู้ตั้ง
ในชั้นนี้ กำหนดให้เขียนลงในกระดาษใบตอบตั้งแต่ ๓ หน้า (เว้นบรรทัด) ขึ้นไป
——————-
ให้เวลา ๓ ชั่วโมง
อปฺปฺมาทรตา โหถ สจิตตมนุรกฺขถ
ทุคฺคา อุทฺธรถตฺตาน ปงฺเก สนฺโนว กุญฺชโร.
ท่านทั้งหลาย จงยินดีในความไม่ประมาท คอยรักษาจิตของตน
จงถอนตนขึ้นจากหล่ม เหมือนช้างที่ตกหล่มถอนตนขึ้นฉะนั้น.
คัมภีร์ที่มา : ขุททกนิกาย ธรรมบท
อุฏฺฐาเนนปฺปมาเทน สญฺณเมน ทเมน จ
ทีปํ กยิราถ เมธาวี ยํ โอโฆ นาภิกีรติ.
คนมีปัญญา พึงสร้างเกาะ ที่น้ำหลากมาท่วมไม่ได้ด้วยความหมั่น
ความไม่ประมาท ความสำรวม และความข่มใจ.
คัมภีร์ที่มา : ขุททกนิกาย ธรรมบท
ชีวเตวาปี สปฺปญฺโญ อปี วิตฺตปริกฺขยา
ปญฺญาย จ อลาเภน วิตฺตวาปิ น ชีวติ.
ถึงสิ้นทรัพย์ คนมีปัญญาก็เป็นอยู่ได้ แต่อับปัญญาแม้มีทรัพย์ ก็เป็นอยู่ไม่ได้.
คัมภีร์ที่มา : ขุททกนิกาย เถรคาถา
โย จ วสฺสสตํ ชีเว ทุปปญฺโญ อสมาหิโต
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย ปญฺญวนฺตสฺส ฌายิโน.
ผู้ใดมีปัญญาทราม มีใจไม่มั่นคง พึงเป็นอยู่ตั้งร้อยปี
ส่วนผู้มีปัญญาเพ่งพินิจ มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียว ดีกว่า.
คัมภีร์ที่มา : ขุททกนิกาย ธรรมบท
ปริตฺตํ ทารุมารุยฺห ยถา สีเท มหณฺณเว
เอวํ กุสีตมาคมฺม สาธุชีวีปิ สีทติ.
คนเกาะไม้ฟืนเล็กๆ พึงจมลงในทะเลฉันใด คนมั่งมีอาศัย
ความเกียจคร้านก็ล่มจมฉันนั้น.
คัมภีร์ที่มา : ขุททกนิกาย เถรคาถา
อสาเร สารมติโน สาเร จาสารทสุสิโน
เต สารํ นาธิคจฺฉนฺติ มิจฺฉาสงฺกปฺปโคจรา.
ผู้เข้าใจสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ และเห็นสิ่งที่เป็นสาระ
ว่าไม่เป็นสาระ เขามีความดำริผิดเป็นโคจร จึงไม่ประสบสิ่งที่เป็นสาระ.
คัมภีร์ที่มา : ขุททกนิกาย ธรรมบท
ธรรมศึกษา ชั้นเอก
ปัญหาและเฉลย วิชา ธรรม
ระดับมัธยมศึกษา
สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๖๗
๑. วุฑฒิ แปลว่าอะไร ?
ก. ความเจริญ
ข. ความคงที่
ค. ความสุข
ง. ความสบาย
๒. คบคนดีฟัง วจีเคารพ นอบนบด้วยพินิจ ทำกิจด้วยปฏิบัติ คือข้อใด ?
ก. วุฑฒิ ๔
ข. จักร ๔
ค. อคติ ๔
ง. อิทธิบาท ๔
๓. ธรรมที่เป็นเสมือนล้อรถนําไปสู่จุดหมาย ได้แก่ข้อใด ?
ก. วุฑฒิ ๔
ข. จักร ๔
ค. อคติ ๔
ง. อิทธิบาท ๔
๔. ข้อใด เป็นความหมายของ ปุพเพกตปุญญตา ?
ก. สร้างบุญมาดี
ข. คบบุคคลดี
ค. ตั้งตนชอบ
ง. อยู่ในปฏิรูประเทศ
๕. ลำเอียงเพราะโง่เขลา เรียกว่าอะไร ?
ก. ฉันทาคติ
ข. โทสาคติ
ค. โมหาคติ
ง. ภยาคติ
๖. จะแก้ความลำเอียงเพราะโง่เขลาได้ ด้วยหลักธรรมใด ?
ก. สติ
ข. ปัญญา
ค. ศรัทธา
ง. ขันติ
๗. กิเลสหรืออกุศลที่ครอบงำจิตไม่ให้บรรลุถึงความดี เรียกว่าอะไร ?
ก. อกุศลมูล
ข. นิวรณ์
ค. อคติ
ง. ทุจริต
๘. ผู้ที่ถูกกามฉันท์ครอบงำ ควรแก้ด้วยการเจริญกรรมฐานใด ?
ก. อสุภะ
ข. พรหมวิหาร
ค. อนุสสติ
ง. มรณัสสติ
๙. ผู้ที่ถูกพยาบาทครอบงำจิต ควรแก้ด้วยการเจริญกรรมฐานใด ?
ก. อสุภะ
ข. พรหมวิหาร
ค. อนุสสติ
ง. มรณัสสติ
๑๐. บุคคลที่ถูกถีนมิทธะครอบงำ ควรแก้ด้วยการเจริญกรรมฐานใด ?
ก. อสุภะ
ข. พรหมวิหาร
ค. อนุสสติ
ง. มรณัสสติ
๑๑. อะไรไม่จัดอยู่ในขันธ์ ๕ ?
ก. รูป
ข. เวทนา
ค. สัญญา
ง. นิพพาน
๑๒. ดิน น้ำ ไฟ ลม ประชุมกันเป็นกาย เรียกว่าอะไร ?
ก. รูป
ข. เวทนา
ค. สังขาร
ง. วิญญาณ
๑๓. วิญญาณในขันธ์ ๕ หมายถึงข้อใด ?
ก. ภูตผี
ข. ปีศาจ
ค. ความจํา
ง. ความรู้อารมณ์
๑๔. ความสบายใจในเวทนา ๕ หมายถึงข้อใด ?
ก. สุข
ข. ทุกข์
ค. โสมนัส
ง. โทมนัส
๑๕. จริตของมนุษย์ในโลกนี้ มีกี่ประเภท ?
ก. ๒ ประเภท
ข. ๔ ประเภท
ค. ๖ ประเภท
ง. ๘ ประเภท
๑๖. บุคคลติดสวยติดงาม จัดได้ว่ามีจริตใด ?
ก. ราคจริต
ข. โทสจริต
ค. โมหจริต
ง. สัทธาจริต
๑๗. บุคคลมีราคจริต ควรเจริญกรรมฐานใด ?
ก. อนุสสติ
ข. กสิณ
ค. อสุภะ
ง. พรหมวิหาร
๑๘. บุคคลมีนิสัยฉุนเฉียวโกรธง่าย จัดเป็นบุคคลจริตใด ?
ก. ราคจริต
ข. โทสจริต
ค. โมหจริต
ง. สัทธาจริต
๑๙. บุคคลมีโทสจริต ควรเจริญกรรมฐานใด ?
ก. พรหมวิหาร
ข. กายคตาสติ
ค. อสุภะ
ง. อนุสสติ
๒๐. บุคคลเชื่อง่าย จัดเป็นบุคคลจริตใด ?
ก. วิตักกจริต
ข. โทสจริต
ค. สัทธาจริต
ง. พุทธิจริต
๒๑. บุคคลมีสัทธาจริต ควรเจริญกรรมฐานใด ?
ก. พรหมวิหาร
ข. กายคตาสติ
ค. อสุภะ
ง. พุทธานุสสติ
๒๒. คําว่า ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม เป็นคุณของรัตนะใด ?
ก. พระพุทธ
ข. พระธรรม
ค. พระสงฆ์
ง. ถูกทุกข้อ
๒๓. พระธรรมคุณข้อว่า สันทิฏฐิโก หมายถึงข้อใด ?
ก. ผู้ปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตัวเอง
ข. รู้เฉพาะตน
ค. เรียกให้มาดู
ง. น้อมมาในตน
๒๔. พระธรรมที่จะเป็นสันทิฏฐิโกได้ ต้องเป็นธรรมประเภทใด ?
ก. ตรัสไว้ดีแล้ว
ข. ไม่ได้ตรัสไว้
ค. สาวกแสดง
ง. เกจิแสดง
๒๕. เอหิปัสสิโก หมายถึงเรียกให้มาดูธรรมประเภทใด ?
ก. ส๎วากขาโต
ข. สันทิฏฐิโก
ค. อกาลิโก
ง. โอปนยิโก
๒๖. การบูชาเจติยสถาน จัดเข้าในหลักธรรมใด ?
ก. วุฑฒิธรรม
ข. จักรธรรม
ค. สาราณิยธรรม
ง. อปริหานิยธรรม
๒๗. สัมมาทิฏฐิในมรรค ๘ มีกี่ระดับ ?
ก. ๒
ข. ๓
ค. ๔
ง. ๕
๒๘. สัมมาสติ ความระลึกชอบ หมายถึงระลึกชอบในอะไร ?
ก. สติปัฏฐาน ๔
ข. อิทธิบาท ๔
ค. รูปฌาน ๔
ง. อรูปฌาน ๔
๒๙. ผู้ที่จะบรรลุโสดาบันได้ ต้องมีสัมมาสติในองค์ธรรมข้อใด ?
ก. สติปัฏฐาน ๔
ข. อิทธิบาท ๔
ค. รูปฌาน ๔
ง. อรูปฌาน ๔
๓๐. สัมมาสมาธิ หมายถึงสมาธิระดับใด ?
ก. ทุติยฌาน
ข. ตติยฌาน
ค. จตุตถฌาน
ง. ถูกทุกข้อ
๓๑. บทว่า อะระหัง เป็นบทแสดงคุณของข้อใด ?
ก. พระพุทธ
ข. พระธรรม
ค. พระสงฆ์
ง. พระรัตนตรัย
๓๒. ความรู้คู่คุณธรรม เป็นความหมายของพุทธคุณบทใด ?
ก. ภควา
ข. สุคโต
ค. พุทโธ
ง. วิชชาจรณสัมปันโน
๓๓. ข้อใด มีความหมายว่าทรงฝึกได้เฉพาะบุคคลที่ควรฝึก ?
ก. ปุริสทัมมสารถิ
ข. สุคโต
ค. พุทโธ
ง. สัตถา เทวมนุสสานัง
๓๔. พุทธคุณบทใด เป็นข้อยืนยันว่าพระพุทธองค์ทรงเป็นครูผู้ชี้ทาง ?
ก. ปุริสทัมมสารถิ
ข. สุคโต
ค. พุทโธ
ง. สัตถา เทวมนุสสานัง
๓๕. พุทธคุณบทใด ได้รับการอ้างอิงเป็นสื่อในการสอนมากที่สุด ?
ก. ปุริสทัมมสารถิ
ข. สุคโต
ค. พุทโธ
ง. สัตถา เทวมนุสสานัง
๓๖. สังฆคุณ บทว่า สุปฏิปันโน แปลว่าอะไร ?
ก. ปฏิบัติดี
ข. ปฏิบัติตรง
ค. ปฏิบัติเป็นธรรม
ง. ปฏิบัติสมควร
๓๗. สังฆคุณบทว่า อุชุปฏิปันโน แปลว่าอะไร ?
ก. ปฏิบัติดี
ข. ปฏิบัติตรง
ค. ปฏิบัติเป็นธรรม
ง. ปฏิบัติสมควร
๓๘. สังฆคุณบทว่า ญายปฏิปันโน แปลว่าอะไร ?
ก. ปฏิบัติดี
ข. ปฏิบัติตรง
ค. ปฏิบัติเป็นธรรม
ง. ปฏิบัติสมควร
๓๙. สังฆคุณบทว่า สามีจิปฏิปันโน แปลว่าอะไร ?
ก. ปฏิบัติดี
ข. ปฏิบัติตรง
ค. ปฏิบัติเป็นธรรม
ง. ปฏิบัติสมควร
๔๐. สังฆคุณบทว่า ทักขิเณยโย แปลว่าอะไร ?
ก. ปฏิบัติดี
ข. ปฏิบัติตรง
ค. ควรของคํานับ
ง. ผู้ควรของทำบุญ
๔๑. การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จัดเป็นการบําเพ็ญบารมีใด ?
ก. ทานบารมี
ข. สีลบารมี
ค. วิริยบารมี
ง. สัจจบารมี
๔๒. การรักษาศีลข้อที่ ๑ จัดเป็นการบําเพ็ญบารมีใด ?
ก. ทานบารมี
ข. สีลบารมี
ค. วิริยบารมี
ง. สัจจบารมี
๔๓. ในสถานการณ์ที่ชาวบ้านประสบภัยพิบัติ ควรบําเพ็ญบารมีใด ?
ก. ทานบารมี
ข. สีลบารมี
ค. วิริยบารมี
ง. เนกขัมมบารมี
๔๔. ในสังคมโซเชียลปัจจุบัน ต้องการผู้บําเพ็ญบารมีใดมากที่สุด ?
ก. ทานบารมี
ข. สีลบารมี
ค. วิริยบารมี
ง. สัจจบารมี
๔๕. บําเพ็ญบารมีใด จึงจะไม่หลงเชื่อข้อมูลข่าวสารปลอม ?
ก. ทานบารมี
ข. สีลบารมี
ค. ปัญญาบารมี
ง. สัจจบารมี
๔๖. เหตุเป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ เรียกว่าอะไร ?
ก. บุญ
ข. บุญกิริยา
ค. บุญกุศล
ง. บุญกิริยาวัตถุ
๔๗. บุญกิริยาวัตถุข้อใด ส่งเสริมบุคคลให้รักษาศีลข้อ ๒ สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ?
ก. ทานมัย
ข. อปจายนมัย
ค. เวยยาวัจจมัย
ง. ปัตติทานมัย
๔๘. สีลมัยเป็นบันไดขั้นที่เท่าไร ของบุญกิริยาวัตถุ ?
ก. ๒
ข. ๓
ค. ๔
ง. ๕
๔๙. สีลมัยเป็นบันไดส่งต่อให้บําเพ็ญบุญกิริยาวัตถุใดได้สมบูรณ์?
ก. ทานมัย
ข. สีลมัย
ค. ภาวนามัย
ง. ปัตติทานมัย
๕๐. บุญกิริยาวัตถุใด เปรียบเสมือนพวงมาลัยบังคับเรือให้แล่นตรงทาง ?
ก. ทานมัย
ข. สีลมัย
ค. ภาวนามัย
ง. ทิฏฐุชุกัมม์
ธรรมศึกษา ชั้นเอก
ปัญหาและเฉลย วิชา อนุพุทธประวัติ
ระดับมัธยมศึกษา
สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๖๗
๑. สามเณรบัณฑิต เป็นชาวเมืองใด ?
ก. สาวัตถี
ข. กบิลพัสดุ์
ค. ราชคฤห์
ง. พาราณสี
๒. มารดาของสามเณรบัณฑิต มีความเคารพนับถือพระเถระใด ?
ก. พระอัสสชิ
ข. พระสีวลี
ค. พระสารีบุตร
ง. พระโมคคัลลานะ
๓. สามเณรบัณฑิตบรรพชา เมื่ออายุกี่ขวบ ?
ก. ๕ ขวบ
ข. ๗ ขวบ
ค. ๙ ขวบ
ง. ๑๒ ขวบ
๔. เทวดาใด มาอารักขาสามเณรบัณฑิตขณะปฏิบัติสมณธรรม ?
ก. พระอินทร์
ข. ท้าวมหาราช
ค. จันทเทพและสุริยเทพ
ง. ถูกทุกข้อ
๕. เหล่าเทวดามาอารักขาสามเณรบัณฑิต เพื่อให้บรรลุอะไร ?
ก. ฌาน
ข. สมาบัติ
ค. อภิญญา
ง. มรรคผล
๖. สามเณรสังกิจจะ เกิดในตระกูลใด ?
ก. พราหมณ์
ข. เศรษฐี
ค. พ่อค้า
ง. ชาวนา
๗. เมื่อสัปเหร่อเผาร่างมารดาสามเณรสังกิจจะ ไฟไม่ไหม้อวัยวะส่วนใด ?
ก. ศีรษะ
ข. หน้าอก
ค. ท้อง
ง. เท้า
๘. สามเณรสังกิจจะไม่เสียชีวิตในขณะถูกไฟเผา เพราะเหตุใด ?
ก. ฟืนหมด
ข. ไฟดับก่อน
ค. ฝนตกหนัก
ง. เกิดภพสุดท้าย
๙. สามเณรสังกิจจะ ถูกหลาวเหล็กแทงส่วนไหนบนใบหน้า ?
ก. หางตา
ข. หน้าผาก
ค. จมูก
ง. แก้ม
๑๐. พระเถระใด เป็นอุปัชฌาย์บวชให้สามเณรสังกิจจะ ?
ก. พระสารีบุตร
ข. พระโมคคัลลานะ
ค. พระอานนท์
ง. พระอนุรุทธะ
๑๑. สามเณรสังกิจจะบรรลุอรหัตตผลพร้อมปฏิสัมภิทาในขณะใด ?
ก. ฟังธรรม
ข. อุปัฏฐากอาจารย์
ค. กวาดพื้น
ง. ปลงผมเสร็จ
๑๒. สุขสามเณร เกิดในตระกูลที่อุปัฏฐากพระเถระใด ?
ก. พระอัสสชิ
ข. พระสารีบุตร
ค. พระโมคคัลลานะ
ง. พระอานนท์
๑๓. ใครเป็นผู้ตั้งชื่อว่า สุข ให้แก่สุขสามเณร ?
ก. บิดามารดา
ข. พระสารีบุตร
ค. หมอดู
ง. พราหมณ์
๑๔. สุขสามเณร บรรพชาขณะมีอายุเท่าไร ?
ก. ๗ ขวบ
ข. ๘ ขวบ
ค. ๑๐ ขวบ
ง. ๑๕ ขวบ
๑๕. อาสนะของพระอินทร์เกิดร้อน ในขณะสุขสามเณรจะทำกิจใด ?
ก. บิณฑบาต
ข. ฉันอาหาร
ค. กวาดพื้น
ง. บําเพ็ญสมณธรรม
๑๖. สุขสามเณร สําเร็จอรหัตตผลในเวลาใด ?
ก. เช้าตรู่
ข. ก่อนฉันอาหาร
ค. หลังเที่ยงวัน
ง. พลบค่ำ
๑๗. สามเณรวนวาสีติสสะ เป็นชาวเมืองใด ?
ก. ราชคฤห์
ข. กบิลพัสดุ์
ค. สาวัตถี
ง. พาราณสี
๑๘. สามเณรวนวาสีติสสะบรรพชา ขณะมีอายุเท่าไร ?
ก. ๗ ขวบ
ข. ๘ ขวบ
ค. ๑๐ ขวบ
ง. ๑๕ ขวบ
๑๙. ใครเป็นผู้สอนกรรมฐานให้แก่สามเณรวนวาสีติสสะ ?
ก. พระพุทธเจ้า
ข. พระสารีบุตร
ค. พระโมคคัลลานะ
ง. พระอานนท์
๒๐. สามเณรได้ชื่อว่า วนวาสีติสสะ เพราะมีปกติอยู่ในที่ใด ?
ก. ป่า ข. ถ้ำ
ค. บ้านง. วัด
๒๑. สามเณรสุมนะ เคยเป็นอะไรกับพระอนุรุทธะในอดีตชาติ?
ก. บิดา
ข. มารดา
ค. สหาย
ง. พี่น้อง
๒๒. สามเณรสุมนะบรรพชาขณะ มีอายุเท่าไร ?
ก. ๕ ขวบ
ข. ๗ ขวบ
ค. ๙ ขวบ
ง. ๑๒ ขวบ
๒๓. สามเณรสุมนะ ไปสระอโนดาตด้วยวิธีใด ?
ก. เดินไป
ข. เหาะไป
ค. นั่งเกวียนไป
ง. ขี่ม้าไป
๒๔. อนาถบิณฑิกเศรษฐี เป็นชาวเมืองใด ?
ก. พาราณสี
ข. กบิลพัสดุ์
ค. ราชคฤห์
ง. สาวัตถี
๒๕. อนาถบิณฑิกเศรษฐี มีชื่อเดิมว่าอะไร ?
ก. ตปุสสะ
ข. ภัลลิกะ
ค. สุทัตตะ
ง. อชิตะ
๒๖. อนาถบิณฑิกเศรษฐีฟังอนุปุพพิกถาแล้ว เป็นอริยบุคคลชั้นใด?
ก. โสดาบัน
ข. สกทาคามี
ค. อนาคามี
ง. อรหันต์
๒๗. วัดที่อนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างถวายชื่ออะไร ?
ก. เวฬุวัน
ข. เชตวัน
ค. ลัฏฐิวัน
ง. อัมพวัน
๒๘. อนาถบิณฑิกเศรษฐีได้รับยกย่องว่าเป็นผู้เลิศกว่าคนทั้งหลายด้านใด ?
ก. ผู้เป็นทายก
ข. ผู้มีปัญญา
ค. ผู้มีฤทธิ์
ง. ผู้เป็นธรรมกถึก
๒๙. จิตตคฤหบดีศรัทธาเลื่อมใสพระเถระใด ในปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ?
ก. โกณฑัญญะ
ข. วัปปะ
ค. มหานามะ
ง. อัสสชิ
๓๐. วัดที่จิตตคฤหบดีสร้างถวาย ชื่อว่าอะไร ?
ก. เวฬุวัน
ข. อัมพวัน
ค. ลัฏฐิวัน
ง. อัมพาฏกวัน
๓๑. จิตตคฤหบดีได้รับยกย่องว่าเป็นผู้เลิศกว่าคนทั้งหลายด้านใด ?
ก. ผู้เป็นทายก
ข. ผู้มีปัญญา
ค. ผู้มีฤทธิ์
ง. ผู้เป็นธรรมกถึก
๓๒. ธัมมิกอุบาสก หมายถึงอุบาสกผู้มีปกติเช่นไร ?
ก. ผู้อุปัฏฐาก
ข. ผู้เป็นทายก
ค. ผู้สร้างวัด
ง. ผู้ปฏิบัติธรรม
๓๓. พระสงฆ์สวดสาธยายพระสูตรชื่อว่าอะไร แก่ธัมมิกอุบาสก ?
ก. อนัตตลักขณสูตร
ข. มงคลสูตร
ค. รัตนสูตร
ง. สติปัฏฐานสูตร
๓๔. นางวิสาขา เกิดในตระกูลใด ?
ก. กษัตริย์
ข. พราหมณ์
ค. เศรษฐี
ง. ชาวนา
๓๕. บิดาของนางวิสาขา ชื่อว่าอะไร ?
ก. ธนัญชัย
ข. สุมนะ
ค. เมณฑกะ
ง. สุทัตตะ
๓๖. เครื่องประดับชนิดพิเศษของนางวิสาขา ชื่อว่าอะไร ?
ก. หิรัญญปสาธน์
ข. มหาลดาปสาธน์
ค. รัตนปสาธน์
ง. สุวรรณปสาธน์
๓๗. นางวิสาขา สําเร็จเป็นอริยบุคคลชั้นใด ?
ก. โสดาบัน
ข. สกทาคามี
ค. อนาคามี
ง. อรหันต์
๓๘. นางวิสาขาได้รับยกย่องว่าเป็นผู้เลิศกว่าอุบาสิกาทั้งหลายด้านใด ?
ก. มีปัญญามาก
ข. มีฤทธิ์มาก
ค. ผู้เป็นธรรมกถึก
ง. ผู้เป็นทายิกา
๓๙. พระนางมัลลิกาเทวี เป็นอัครมเหสีของกษัตริย์พระองค์ใด ?
ก. สุทโธทนะ
ข. ปเสนทิโกศล
ค. พิมพิสาร
ง. อชาตศัตรู
๔๐. ทานที่ไม่มีผู้ใดเหมือน พระนางมัลลิกาเทวีทำถวาย ชื่อว่าอะไร ?
ก. ปาฏิบุคลิกทาน
ข. สังฆทาน
ค. ไทยทาน
ง. อสทิสทาน
๔๑. พิธีทำบุญเลี้ยงพระ เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยใด ?
ก. ก่อนพุทธกาล
ข. พุทธกาล
ค. อยุธยา
ง. รัตนโกสินทร์
๔๒. พิธีทำบุญเลี้ยงพระ คือการนิมนต์พระสงฆ์มาทำกิจใด ?
ก. สวดมนต์
ข. ฉันอาหาร
ค. ถวายทาน
ง. ถูกทุกข้อ
๔๓. พระสงฆ์ที่นิมนต์มาในพิธีทำบุญเลี้ยงพระ นิยมจำนวนกี่รูป ?
ก. ๕ รูป
ข. ๗ รูป
ค. ๙ รูป
ง. ถูกทุกข้อ
๔๔. อามิสทาน หมายถึงการให้ทานประเภทใด ?
ก. ให้ความรู้
ข. ให้อภัย
ค. ให้วัตถุสิ่งของ
ง. ถูกทุกข้อ
๔๕. พระพุทธเจ้าทรงยกย่องทานประเภทใด ว่ามีอานิสงส์มาก ?
ก. ปาฏิบุคลิกทาน
ข. สังฆทาน
ค. อภัยทาน
ง. ถูกทุกข้อ
๔๖. พิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ มีขึ้นครั้งแรกในยุคใด ?
ก. ก่อนพุทธกาล
ข. พุทธกาล
ค. อยุธยา
ง. รัตนโกสินทร์
๔๗. การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ คือพิธียอมรับนับถืออะไรเป็นสรณะ ?
ก. พระรัตนตรัย
ข. เทพเจ้า
ค. บรรพบุรุษ
ง. ธรรมชาติ
๔๘. เครื่องบูชาสักการะเพื่อแสดงตนเป็นพุทธมามกะ คือวัตถุประเภทใด ?
ก. ผ้าบังสุกุล
ข. ไตรจีวร
ค. หมากพลู
ง. ดอกไม้ธูปเทียน
๔๙. การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ พึงแสดงต่อหน้าบุคคลใด ?
ก. พ่อแม่
ข. ครูอาจารย์
ค. พระสงฆ์
ง. พระมหากษัตริย์
๕๐. นักเรียนพึงแต่งชุดเช่นใด เพื่อเข้าร่วมพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ?
ก. ชุดนักเรียน
ข. ชุดขาวดำ
ค. ชุดกีฬา
ง. ชุดแฟชั่น
ธรรมศึกษา ชั้นเอก
ปัญหาและเฉลย วิชา กรรมบถ (วินัย)
ระดับมัธยมศึกษา
สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๖๗
๑. พระพุทธศาสนาสอนให้เชื่อเรื่องใด ?
ก. กรรม
ข. แก้กรรม
ค. ขมากรรม
ง. เชื่อมกรรม
๒. ข้อใด ทำให้สัตว์โลกเกิดมามีความแตกต่างกัน ?
ก. เชื้อชาติ
ข. ผลกรรม
ค. ดวงชะตา
ง. ยศศักดิ์
๓. ข้อใด เป็นต้นเหตุให้บาปบุญเกิดขึ้นแก่มนุษย์ทั้งหลาย ?
ก. ฐานะ
ข. การศึกษา
ค. ตระกูล
ง. การกระทำ
๔. การทำกรรมดีของมนุษย์ทั้งหลาย เรียกว่าอะไร ?
ก. เวรกรรม
ข. บาปกรรม
ค. อกุศลกรรม
ง. กุศลกรรม
๕. การทำกรรมชั่วของมนุษย์ทั้งหลาย เรียกว่าอะไร ?
ก. ผลกรรม
ข. บุญกรรม
ค. อกุศลกรรม
ง. กุศลกรรม
๖. กรรมนําสัตว์ทั้งหลายไปสู่ทุคติและสุคติเรียกว่าอะไร ?
ก. กรรมวิบัติ
ข. กรรมบถ
ค. กรรมเวร
ง. กรรมกิเลส
๗. มนุษย์พึงดำเนินไปสู่ทางแห่งความดี ทางแห่งความดีคืออะไร ?
ก. กุศลจิต
ข. กุศลมูล
ค. กุศลกรรมบถ
ง. กุศลธรรม
๘. มนุษย์ไม่พึงดำเนินไปสู่ทางแห่งความชั่ว ทางแห่งความชั่วคืออะไร ?
ก. อกุศลจิต
ข. อกุศลมูล
ค. อกุศลกรรมบถ
ง. อกุศลธรรม
๙. ตอนเป็นมนุษย์ทำแต่ความดี เมื่อตายแล้วจะไปเกิดในที่ใด ?
ก. สวรรค์
ข. นรก
ค. อบายภูมิ
ง. เปรตวิสัย
๑๐. ตอนเป็นมนุษย์ก่อกรรมทำชั่ว เมื่อตายแล้วจะไปเกิดในที่ใด ?
ก. มนุษย์
ข. นรก
ค. สวรรค์
ง. พรหมโลก
๑๑. มนุษย์ทั้งหลายทำแต่เรื่องผิดศีลธรรม เพราะถูกอะไรครอบงำ ?
ก. โลภ
ข. โกรธ
ค. หลง
ง. ถูกทุกข้อ
๑๒. การใช้ร่างกายทำกรรมดีหรือกรรมชั่ว เรียกว่าอะไร ?
ก. กายกรรม
ข. กุศลกรรม
ค. กรรมบถ
ง. กรรมวิบัติ
๑๓. การใช้ปากพูดถึงเรื่องดีหรือเรื่องชั่ว เรียกว่าอะไร ?
ก. มุสาวาท
ข. กายกรรม
ค. วจีกรรม
ง. มโนกรรม
๑๔. การใช้ใจคิดถึงเรื่องดีหรือเรื่องชั่ว เรียกว่าอะไร ?
ก. มโนทัศน์
ข. มโนธรรม
ค. มโนกรรม
ง. ถูกทุกข้อ
๑๕. ปาณาติบาต คือการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เป็นความชั่วทางใด ?
ก. ทางกาย
ข. ทางวาจา
ค. ทางใจ
ง. ถูกทุกข้อ
๑๖. ผรุสวาจา คือพูดคําหยาบคาย เป็นความชั่วทางใด ?
ก. ทางกาย
ข. ทางวาจา
ค. ทางใจ
ง. ถูกทุกข้อ
๑๗. พยาบาท คืออาฆาตจองเวรผู้อื่น เป็นความชั่วทางใด ?
ก. ทางกาย
ข. ทางวาจา
ค. ทางใจ
ง. ถูกทุกข้อ
๑๘. ข้อใด แค่คิดอย่างเดียวไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ ?
ก. ฆ่าสัตว์
ข. จองเวร
ค. อิจฉา
ง. ละโมบ
๑๙. ข้อใด เพียงแค่คิดในใจ ก็ถือว่าก่อกรรมทำเวรแล้ว ?
ก. ลักขโมย
ข. พยาบาท
ค. โกหก
ง. ล้างผลาญ
๒๐. คนหรือสัตว์ต่างก็รักชีวิตของตน ทำให้เกิดกุศลกรรมบถข้อใด ?
ก. เว้นฆ่าสัตว์
ข. เว้นลักขโมย
ค. เว้นโกหก
ง. เว้นส่อเสียด
๒๑. ข้อใด เข้าลักษณะการทำบาปข้อปาณาติบาต ?
ก. คิดจะขโมย
ข. คิดจะโกหก
ค. คิดจะฆ่า
ง. คิดจะด่า
๒๒. การฆ่าสัตว์เป็นการก่อเวรให้ตนเอง ผู้กระทำย่อมได้รับผลใด ?
ก. ตกนรก
ข. ตกอบาย
ค. อายุสั้น
ง. ถูกทุกข้อ
๒๓. คําว่า ถือเอา ในอทินนาทานหมายถึงถือเอาด้วยอาการใด ?
ก. ขโมย
ข. ทำร้าย
ค. โกรธ
ง. อาฆาต
๒๔. ของมีเจ้าของ ถ้าเจ้าของไม่ให้ ใครนําไปเป็นความผิดใด ?
ก. ฆ่าสัตว์
ข. ลักทรัพย์
ค. พูดเท็จ
ง. จองเวร
๒๕. นําของส่วนรวมไปใช้ส่วนตัว ไม่ยอมคืน ถือเป็นความผิดใด ?
ก. เห็นแก่ตัว
ข. หนีโรงเรียน
ค. โกหกครู
ง. ลักทรัพย์
๒๖. คนหากินทุจริตผิดศีลธรรม ตายไปต้องได้รับโทษสถานใด ?
ก. ตกนรก
ข. ถูกธรณีสูบ
ค. ปีนต้นงิ้ว
ง. ปากเท่ารูเข็ม
๒๗. กาเมสุมิจฉาจาร คือการทำผิดศีลธรรมเรื่องใด ?
ก. ยาเสพติด
ข. กามารมณ์
ค. ลักขโมย
ง. คอร์รัปชัน
๒๘. บุคคลต้องห้ามในการทำผิดกาเมสุมิจฉาจาร ได้แก่ข้อใด ?
ก. ลูกเขา
ข. ภรรยาเขา
ค. สามีเขา
ง. ถูกทุกข้อ
๒๙. กาเมสุมิจฉาจารเป็นกรรมชั่ว ใครทำเป็นบาป ต้องได้รับโทษใด ?
ก. ถูกกาจิกไส้
ข. มีมือเท่าใบตาล
ค. มีศัตรูคู่เวร
ง. วิกลจริต
๓๐. พูดให้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เรียกว่าอะไร ?
ก. พูดเท็จ
ข. พูดคําหยาบ
ค. พูดส่อเสียด
ง. พูดเพ้อเจ้อ
๓๑. พูดยุยงให้สังคมแตกแยก ขาดความสามัคคีเรียกว่าอะไร ?
ก. พูดเท็จ
ข. พูดส่อเสียด
ค. พูดคําหยาบ
ง. พูดเพ้อเจ้อ
๓๒. พูดคะนองปากไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้ฟัง เรียกว่าอะไร ?
ก. พูดเท็จ
ข. พูดส่อเสียด
ค. พูดเพ้อเจ้อ
ง. พูดคําหยาบ
๓๓. คําหยาบคายทำให้ไม่เป็นที่รักของคนรอบข้าง ได้แก่ข้อใด ?
ก. คําด่า
ข. คําสาปแช่ง
ค. คําประชด
ง. ถูกทุกข้อ
๓๔. คนชอบโกหกเกลียดความจริง ควรปรับนิสัยตามข้อใด ?
ก. งดพูดเท็จ
ข. งดพูดยุยง
ค. งดพูดเหลวไหล
ง. งดด่า
๓๕. นักเรียนควรพูดแต่ความจริง เพราะเกิดผลดีต่อตัวเองอย่างไร ?
ก. มีคนเชื่อถือ
ข. มีคนคบหา
ค. มีคนเมตตา
ง. ถูกทุกข้อ
๓๖. การโกหกเป็นกรรมชั่วเป็นบาป ผู้ตั้งใจงดเว้น ชื่อว่าตั้งอยู่ในอะไร ?
ก. กายสุจริต
ข. วจีสุจริต
ค. มโนสุจริต
ง. ถูกทุกข้อ
๓๗. ข้อใด เป็นกรรมชั่วเป็นบาปทางใจเท่านั้น ?
ก. เมตตา
ข. สงสาร
ค. เห็นผิด
ง. เห็นถูก
๓๘. คิดเอาโทรศัพท์เพื่อนมาเป็นของตัว เป็นบาปตามข้อใด ?
ก. พยาบาท
ข. อภิชฌา
ค. ลักทรัพย์
ง. เพ้อเจ้อ
๓๙. จิตอาฆาตผูกใจเจ็บมุ่งแก้แค้นเขา เป็นบาปเพราะเหตุใด ?
ก. ขัดใจเรา
ข. เขาไม่รู้ตัว
ค. กลัวถูกฆ่า
ง. ปิดกั้นความดี
๔๐. มิจฉาทิฏฐิคือความเห็นผิดจากคลองธรรม ได้แก่ข้อใด ?
ก. ไม่ละชั่ว
ข. ไม่กลัวบาป
ค. ไม่ทำความดี
ง. ถูกทุกข้อ
๔๑. สัมมาทิฏฐิคือความเห็นถูกตามคลองธรรม ได้แก่ข้อใด ?
ก. ทำบาปไม่ดี
ข. ทำบุญไม่ดี
ค. เมตตาไม่ดี
ง. กตัญญูไม่ดี
๔๒. อนภิชฌา คือไม่คิดอยากได้ของใคร ป้องกันไม่ให้คนทำกรรมชั่วใด ?
ก. ปองร้าย
ข. แก้แค้น
ค. ลักขโมย
ง. ผูกอาฆาต
๔๓. คนดีไม่คิดละโมบอยากได้ของใคร เพราะในใจไม่มีกิเลสใด ?
ก. โลภะ
ข. โทสะ
ค. โมหะ
ง. ถูกทุกข้อ
๔๔. คนดีไม่ผูกใจเจ็บคิดจะแก้แค้นใคร เพราะในใจไม่มีกิเลสใด ?
ก. โลภะ
ข. โทสะ
ค. โมหะ
ง. ถูกทุกข้อ
๔๕. ครูผูกใจว่าจะลงโทษเด็กที่ทำผิด ไม่จัดเป็นพยาบาทเพราะเหตุใด ?
ก. ให้กลับตัว
ข. ให้เป็นคนดี
ค. ให้เจริญ
ง. ถูกทุกข้อ
๔๖. เมื่อเราผูกพยาบาทเพื่อน ใครได้รับความเสียหายก่อน ?
ก. ตัวเรา
ข. เพื่อน
ค. ครู
ง. ผู้ปกครอง
๔๗. ผู้มีความพยาบาทอยู่ในใจควรทำอย่างไร เพื่อให้ชีวิตสงบสุข ?
ก. เลิกคบ
ข. เลิกเห็น
ค. เลิกคุย
ง. เลิกผูกเวร
๔๘. การทำความดีหรือทำบุญ ผู้ทำได้รับผลดีในปัจจุบันอย่างไร ?
ก. เกิดในสุคติ
ข. อยู่เป็นสุข
ค. เป็นเทวดา
ง. เป็นพรหม
๔๙. กุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอะไร ?
ก. ทุจริต
ข. สุจริต
ค. สุคติ
ง. ทุคติ
๕๐. กุศลกรรมบถ ๑๐ ประการ มีประโยชน์แก่ผู้นําไปปฏิบัติอย่างไร ?
ก. ละชั่ว
ข. ทำดี
ค. มีใจบริสุทธิ์
ง. ถูกทุกข้อ