ธรรมศึกษา โท มัธยม พ.ศ. ๒๕๖๖

ธรรมศึกษา ชั้นโท

ปัญหา วิชาเรียงความแก้กระทู้ธรรม

ระดับมัธยมศึกษา

สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๖๖

อตฺตทตฺถํ ปรตฺเถน  พหุนาปิ น หาปเย
อตฺตทตฺถมภิญฺญาย   สทตฺถปสุโต สิยา.

บุคคลไม่ควรพล่าประโยชน์ของตน
เพราะประโยชน์ผูู้อื่นแม้มาก
รู้จักประโยชน์ของตนแล้ว
พึงขวนขวายในประโยชน์ของตน.

คัมภีร์ที่มา : ขุทฺทกนิกาย ธรรมบท

แต่งอธิบายให้สมเหตุสมผล โดยใช้สุภาษิตที่สนามหลวงแผนกธรรมกำหนดมาให้ จำนวน ๕ สุภาษิตข้างล่างนี้ มาประกอบอ้างอิงเพียง ๒ สุภาษิต และสุภาษิตที่อ้างมานั้น ควรอธิบายเชื่อมความให้สมกับเรื่องในกระทู้ตั้ง

ในชั้นนี้ กำหนดให้เขียนลงในกระดาษใบตอบตั้งแต่ ๓ หน้า (เว้นบรรทัด) ขึ้นไป

——————-

ให้เวลา ๓ ชั่วโมง

ยญฺหิ กิจฺจํ ตทปวิทฺธํ อกิจฺจํ ปน กยิรติ
อุนฺนฬานํ ปมตฺตานํ   เตสํ วฑฺฒนฺติ อาสวา.

คนทอดทิ้งกิจที่ควรทำ ไปทำกิจที่ไม่ควรทำ
เมื่อเขาถือตัวมัวประมาท อาสวะย่อมเจริญ.

คัมภีร์ที่มา : ขุททกนิกาย ธรรมบท

ยสฺส ปาปํ กตํ กมฺมํ  กุสเลน ปิถียติ
โสมํ โลกํ ปภาเสติ   อพฺภา มุตฺโตว จนฺทิมา.

ผู้ใดทำกรรมชั่วแล้ว ละเสียได้ด้วยกรรมดี
ผู้นั้นย่อมยังโลกนี้ให้สว่าง 
เหมือนพระจันทร์พ้นจากเมฆหมอกฉะนั้น.

คัมภีร์ที่มา : มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์

ยาทิสํ วปเต พีชํ    ตาทิสํ ลภเต ผลํ
กลฺยาณการี กลฺยาณํ    ปาปการี จ ปาปกํ.

บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผู้ลเช่นนั้น
ผูู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ผูู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว.

คัมภีร์ที่มา : สังยุตตนิกาย สคาถวรรค

ชีวเตวาปิ สปฺปญฺโญ   อปิ วิตฺตปริกฺขยา
ปญฺญาย จ อลาเภน   วิตฺตวาปิ น ชีวติ.

ถึงสิ้นทรัพย์ ผู้มีปัญญาก็เป็นอยู่ได้ แต่อับปัญญา
แม้มีทรัพย์ก็เป็นอยู่ไม่ได้.

คัมภีร์ที่มา : ขุททกนิกาย เถรคาถา

โย จ วสฺสสตํ ชีเว    ทุปฺปญฺโญ อสมาหิโต
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย    ปญฺญวนฺตสฺส ฌายิโน.

ผูู้ใดมีปัญญาทราม มีใจไม่มั่นคง พึงเป็นอยู่ตั้งร้อยปี
ส่วนผูู้มีปัญญาเพ่งพินิจ มีชีวิตอยู่เพียงวันเดียว ดีกว่า

คัมภีร์ที่มา : ขุทฺทกนิกาย ธรรมบท


ธรรมศึกษา ชั้นโท

ปัญหาและเฉลย วิชา ธรรม

ระดับมัธยมศึกษา

สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๖๖

๑. ปิฎก หมายถึงอะไร ?
 ก. คัมภีร์
 
ข. หลักสูตร
 ค. ตำนาน
 ง. วรรณคดี
 
 ๒. พระธรรมเทศนาที่อ้างอิงถึงบุคคล จัดอยู่ในปิฎกใด ?
 ก. พระวินัย
 ข. พระสูตร
 
ค. พระอภิธรรม
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 
๓. พระธรรมเทศนาที่กล่าวถึงสภาวธรรมเท่านั้น จัดอยู่ในปิฎกใด ?
 ก. พระวินัย
 ข. พระสูตร
 ค. พระอภิธรรม
 
ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๔. พระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพุทธจริยา ๓ ประการ เป็นเวลากี่ปี ?
 ก. ๒๙ ปี
 ข. ๓๕ ปี
 ค. ๔๕ ปี
 
ง. ๘๐ ปี
 
 ๕. การเสด็จออกบิณฑบาต จัดเป็นจริยาใด ?
 ก. โลกัตถจริยา
 
ข. ญาตัตถจริยา
 ค. พุทธัตถจริยา
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๖. การที่ทรงห้ามพระญาติทั้ง ๒ ฝ่ายที่วิวาทกัน จัดเป็นจริยาใด ?
 ก. โลกัตถจริยา
 ข. ญาตัตถจริยา
 
ค. พุทธััตถจริยา
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๗. การที่ทรงบัญญัติสิกขาบท จัดเป็นจริยาใด ?
 ก. โลกัตถจริยา
 ข. ญาตัตถจริยา
 ค. พุทธััตถจริยา
 
ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๘. การเวียนตายเวียนเกิด อยู่ในภพภูมิต่าง ๆ เรียกว่าอะไร ?
 ก. วัฏฏะ
 
ข. กิเลสวัฏฏะ
 ค. กัมมวัฏฏะ
 ง. วิปากวัฏฏะ
 
 ๙. วงจรกิเลส หมายถึงข้อใด ?
 ก. อวิชชา
 ข. ตัณหา
 ค. อุปาทาน
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 
๑๐. วงจรวิบาก หมายถึงข้อใด ?
 
ก. อวิชชา
 ข. ตัณหา
 
ค. อุปาทาน
 ง. ชาติ
 
 
๑๑. ข้อปฏิบัติสำหรับศึกษาเพื่อฝ่ึกกาย วาจา ใจ เรียกว่าอะไร ?
 ก. อธิสีลสิกขา
 ข. อธิจิตตสิกขา
 ค. อธิปัญญาสิกขา
 ง. ถูกทุกข้อ
 

 ๑๒. การฝึกอบรมเพื่อให้เกิดความรู้แจ้งเห็นจริง จัดเป็นสิกขาใด ?
 ก. อธิสีลสิกขา
 ข. อธิจิตตสิกขา
 ค. อธิปัญญาสิกขา
 
ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๑๓. การฝึกอบรมเพื่อให้เกิดสมาธิขั้นสูง จัดเป็นสิกขาใด ?
 ก. อธิสีลสิกขา
 ข. อธิจิตตสิกขา
 
ค. อธิปัญญาสิกขา
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๑๔. การฝึกอบรมความประพฤติ จัดเป็นสิกขาใด ?
 ก. อธิสีลสิกขา
 ข. อธิจิตตสิกขา
 ค. อธิปัญญาสิกขา
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๑๕. ลักษณะที่เสมอกันของสังขารทั้งปวง เรียกว่าอะไร ?
 ก. อนิจจตา
 ข. ทุกขตา
 ค. อนัตตตา
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 
๑๖. อาการที่ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ จัดเป็นสามัญญลักษณะใด ?
 ก. อนิจจตา
 ข. ทุกขตา
 
ค. อนัตตตา
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๑๗. การเปลี่ยนแปลงของสังขาร จัดเป็นสามัญญลักษณะใด ?
 ก. อนิจจตา
 
ข. ทุกขตา
 ค. อนัตตตา
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๑๘. เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร เป็นการพิจารณาแล้วทำอย่างไร ?
 ก. บริโภค
 ข. อดกลั้น
 ค. เว้น
 ง. บรรเทา
 
 ๑๙. อาหารและยารักษาโรค พิจารณาแล้วควรทำอย่างไร ?
 ก. บริโภค
 
ข. อดกลั้น
 ค. เว้น
 ง. บรรเทา
 
 ๒๐. คบคนพาล พาลพาไปหาผิด พิจารณาแล้วควรทำอย่างไร ?
 ก. บริโภค
 ข. อดกลั้น
 ค. เว้น
 
ง. บรรเทา
 
 ๒๑. พิจารณาเห็นความชั่วร้ายที่เกิดขึ้นภายในใจแล้ว ควรทำอย่างไร ?
 ก. บริโภค
 ข. อดกลั้น
 ค. เว้น
 ง. บรรเทา
 
 
๒๒. ผูู้แรกถึงกระแสพระนิพพาน หมายถึงพระอริยบุคคลชั้นใด ?
 ก. พระโสดาบัน
 
ข. พระสกทาคามี
 
ค. พระอนาคามี
 ง. พระอรหันต์
 
 ๒๓. พระอริยบุคคลชั้นไหนทำราคะ โทสะ โมหะ ให้เบาบางลงได้ ?
 ก. พระโสดาบัน
 ข. พระสกทาคามี
 
ค. พระอนาคามี
 ง. พระอรหันต์

 ๒๔. พระอริยบุคคลตั้งแต่ชั้นไหนไป ละกามราคะได้ ?
 ก. พระโสดาบัน
 ข. พระสกทาคามี
 ค. พระอนาคามี
 
ง. พระอรหันต์
 
 ๒๕. บรรลุโสดาปัตติมรรคแล้ว ละสังโยชน์ใดได้บ้าง ?
 ก. สักกายทิฏฐิ
 ข. วิจิกิจฉา
 ค. สีลัพพตปรามาส
 ง. ถูกทุกข้อ

๒๖. สังโยชน์เป็นกิเลสอย่างหนึ่ง เปรียบเสมือนอะไร ?
 ก. โรค
 
ข. ยารักษาโรค
 ค. อาการที่หายจากโรค
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๒๗. มรรค ๔ เปรียบเสมือนอะไร ?
 ก. โรค
 ข. ยารักษาโรค
 ค. อาการที่หายจากโรค
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๒๘. ผู้ล ๔ เปรียบเสมือนอะไร ?
 ก. โรค
 ข. ยารักษาโรค
 ค. อาการที่หายจากโรค
 
ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๒๙. การแสดงธรรมที่เริ่มจากง่ายไปหายากเรียกว่าอะไร ?
 ก. อนุปัุพพิกถา
 
ข. อริยสัจ
 ค. อนัตตลักขณสูตร
 ง. อิทธิบาท
 
 ๓๐. กถาว่าด้วยการเสียสละแบ่งปัน จัดเป็นกถาใด ?
 ก. ทานกถา
 
ข. สีลกถา
 ค. สัคคกถา
 ง. กามาทีนวกถา
 
 ๓๑. การอธิบายถึงผลที่ผูู้ให้ทานรักษาศีลจะพึงได้รับ จัดเป็นกถาใด ?
 ก. ทานกถา
 ข. สีลกถา
 ค. สัคคกถา
 
ง. กามาทีนวกถา
 
 ๓๒. กุลมัจฉริยะ หมายถึงความตระหนี่ในเรื่องใด ?
 ก. ถิ่นที่อยู่
 ข. สกุล
 ค. ทรัพย์สมบัติ
 ง. วรรณะ
 
 ๓๓. หวงวิชาความรู้ จัดเป็นมัจฉริยะใด ?
 ก. กุลมัจฉริยะ
 ข. ลาภมัจฉริยะ
 ค. วัณณมัจฉริยะ
 ง. ธัมมมัจฉริยะ
 
 
๓๔. อุปสรรคที่ขัดขวางไม่ให้บุคคลประสบความสำเร็จ เรียกว่าอะไร ?
 ก. มาร
 
ข. ทุจริต
 
ค. อคติ
 ง. อกุศลมูล
 
 ๓๕. รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ จัดเป็นมารประเภทใด ?
 ก. กิเลสมาร
 ข. ขันธมาร
 ค. มัจจุมาร
 ง. อภิสังขารมาร
 
 ๓๖. คนทุจริต คิดมิชอบ เพราะถูกมารใดครอบงำ ?
 ก. กิเลสมาร
 
ข. ขันธมาร
 ค. มัจจุมาร
 ง. อภิสังขารมาร
 
 ๓๗. ในระดับสังคมจะชนะมารได้ด้วยการบำเพ็ญธรรมใด ?
 ก. เบญจศีล
 ข. เบญจธรรม
 ค. สุจริต ๓
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 
๓๘. มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท ตรงกับธรรมข้อใด ?
 
ก. อุฏฐานสัมปทา
 ข. อารักขสัมปทา
 
ค. กัลป์ยาณมิตตตา
 ง. สมชีวิตา
 
 ๓๙. ข้อใด จัดเป็นอุฏฐานสัมปทา ?
 ก. ขยันหา
 
ข. รักษาดี
 
ค. มีกัลยาณมิตร
 ง. เลี้ยงชีวิตพอเพียง
  
 ๔๐. ข้อใด จัดเป็นสมชีวิตา ?
 
ก. ขยันหา
 ข. รักษาดี
 
ค. มีกัลยาณมิตร
 ง. เลี้ยงชีวิตพอเพียง
 
 
๔๑. อันเพื่อนดีมีหนึ่งถึงจะน้อยดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา ตรงกับข้อใด ?
 ก. อุฏฐานสัมปทา
 ข. อารักขสัมปทา
 ค. กัลยาณมิตตตา
 
ง. สมชีวิตา
 
 
๔๒. เชื่อว่าทำดีผู้ลไม่เป็นชั่ว ทำชั่วผลไม่เป็นดี จัดเป็นสัมปทาใด ?
 ก. สัทธาสัมปทา
 
ข. สีลสัมปทา
 
ค. จาคสัมปทา
 ง. ปัญญาสัมปทา
 
 ๔๓. รู้เท่าทันเหตุการณ์ไม่เชื่อง่าย จัดเป็นสัมปทาใด ?
 
ก. สัทธาสัมปทา
 ข. สีลสัมปทา
 
ค. จาคสัมปทา
 ง. ปัญญาสัมปทา
 
 
๔๔. ในทิศ ๖ มารดาบิดา จัดเป็นทิศใด ?
 ก. ทิศเบื้องหน้า
 
ข. ทิศเบื้องขวา
 
ค. ทิศเบื้องซ้าย
 ง. ทิศเบื้องบน
 
๔๕. ข้อใด เป็นหน้าที่ของบุตรธิดาที่จะพึงตอบแทนมารดาบิดา ?
 ก. เลี้ยงดูท่าน
 ข. ช่วยงานท่าน
 
ค. ทำบุญอุทิศให้
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 
๔๖. ข้อใด เป็นหน้าที่ของมารดาบิดาที่จะพึงอนุเคราะห์บุตรธิดา ?
 ก. ห้ามทำชั่ว
 ข. ให้ทำดี
 
ค. ให้มีการศึกษา
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 
๔๗. ทักขิณทิศ คือทิศเบื้องขวา หมายถึงบุคคลในข้อใด ?
 ก. มารดาบิดา
 ข. มิตรสหาย
 
ค. สมณพราหมณ์
 ง. ครูอาจารย์
 
 
๔๘. ควรแสดงความเคารพต่อทิศเบื้องขวา ด้วยวิธีใด ?
 ก. ยืนต้อนรับ
 ข. เชื่อฟัง
 
ค. ตั้งใจศึกษา
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 
๔๙. อุปริมทิศ คือทิศเบื้องบน หมายถึงบุคคลในข้อใด ?
 ก. มารดาบิดา
 ข. มิตรสหาย
 ค. สมณพราหมณ์
 
ง. ครูอาจารย์
 
 ๕๐. ควรแสดงความเคารพต่อทิศเบื้องบน ด้วยวิธีใด ?
 
ก. ทำดีกับท่าน
 ข. เต็มใจต้อนรับ
 
ค. ให้ความอุปถัมภ์
 ง. ถูกทุกข้อ

ให้เวลา ๕๐ นาที


ธรรมศึกษา ชั้นโท

ปัญหาและเฉลย วิชา อนุพุทธประวัติ

ระดับมัธยมศึกษา

สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๖๖

๑. ปิปผลิ เป็นชื่อเดิมของพระเถระองค์ใด ?
 ก. พระสารีบุตร
 ข. พระมหากัสสปะ
 ค. พระอานนท์
 ง. พระอนุรุทธะ
  
 ๒. ปิปผลิมาณพ เกิดในตระกูลใด ?
 ก. นักรบ
 ข. พราหมณ์
 ค. พ่อค้า
 ง. คนใช้แรงงาน
 
 ๓. นางภัททกาปิลานีแต่งงานกับปิปผลิมาณพ ขณะมีอายุกี่ปี ?
 ก. ๑๖ ปี
 
ข. ๑๗ ปี
 ค. ๑๘ ปี
 ง. ๑๙ ปี
 
 ๔. ปกติผู้จุติมาจากพรหมโลก จะไม่ยินดีกับเรื่องใด ?
 ก. กินอาหาร
 ข. กามารมณ์
 ค. การนอนหลับ
 ง. การสวดมนต์
 
 ๕. ภัททกาปิลานีภิกษุณี สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลชั้นใด ?
 ก. พระโสดาบัน
 ข. พระสกทาคามี
 ค. พระอนาคามี
 ง. พระอรหันต์
 
 
๖. ปิปผลิมาณพ ได้พบพระพุทธเจ้าขณะประทับอยู่ใต้ต้นไม้ใด ?
 ก. ต้นโพธิ์
 ข. ต้นไทร
 
ค. ต้นไผู้่
 ง. ต้นสาละ
 
 
๗. ปิปผู้ลิมาณพ ได้รับการอุปสมบทด้วยวิธีใด ?
 
ก. เอหิภิกขุ
 ข. รับสรณะ ๓
 ค. รับโอวาท ๓
 
ง. ญัตติจตุตถกรรม
 
 
๘.ปิปผลิมาณพ เมื่อบวชเป็นพระภิกษุแล้ว มีชื่อเรียกใหม่ว่าอะไร ?
 ก. พระยสะ
 ข. พระสารีบุตร
 ค. พระมหากัสสปะ
 
ง. พระอัสสชิ
 
 ๙. พระเถระองค์ใด ได้รับชมเชยว่าถือธุดงค์ ๓ ?
 
ก. พระยสะ
 ข. พระสารีบุตร
 ค. พระมหากัสสปะ
 
ง. พระมหานามะ
 
 ๑๐. พระมหากัสสปะเป็นประธานสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่เท่าไร ?
 ก. ครั้งที่ ๑
 
ข. ครั้งที่ ๒
 ค. ครั้งที่ ๓
 ง. ครั้งที่ ๔
 
 ๑๑. การสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่๑ ทำอยู่กี่เดือน ?
 ก. ๕ เดือน
 ข. ๖ เดือน
 ค. ๗ เดือน
 
ง. ๘ เดือน
 
 ๑๒. พระมหากัจจายนะ เกิดในเมืองใด ?
 ก. ราชคฤห์
 ข. พาราณสี
 ค. สาวัตถี
 ง. อุชเชนี
 
 ๑๓. กษัตริย์พระองค์ใด สงกัจจายนปุโรหิตไปทูลเชิญพระพุทธเจ้า ?
 ก. จัณฑปัชโชติ
 
ข. สุทโธทนะ
 ค. พิมพิสาร
 ง. อชาตศัตรู
 
 ๑๔. พระมหากัจจายนะได้รับการยกย่องในด้านใด ?
 ก. แสดงธรรม
 
ข. แสดงฤทธิ์
 ค. เดาใจคน
 ง. ย่นระยะทาง
 
 ๑๕. บุตรเศรษฐีโสเรยยะ กลายเป็นหญิงเพราะคิดอกุศลต่อพระเถระใด ?
 ก. พระอัสสชิ
 ข. พระยสะ
 ค. พระสารีบุตร
 ง. พระมหากัจจายนะ
 
 ๑๖. พระเถระองค์ใด เป็นโอรสของพระเจ้าสุกโกทนะ ?
 ก. พระมหากัสสปะ
 ข. พระสารีบุตร
 ค. พระอานนท์
 
ง. พระสิวลี
 
 ๑๗. พระเถระองค์ใด เป็นพุทธอนุชา ?
 ก. พระนันทะ
 
ข. พระสารีบุตร
 ค. พระโมคคัลลานะ
 ง. พระอานนท์
 
 ๑๘. พระอานนท์ ออกบวชพร้อมกับพระเถระองค์ใด ?
 ก. พระวัปปะ
 ข. พระยสะ
 ค. พระอนุรุทธะ
 
ง. พระนันทะ
 
 ๑๙. ใครออกบวชพร้อมกับพระอานนท์ ?
 ก. อุปกาชีวก
 ข. ตปุสสะ
 ค. ภัลลิกะ
 ง. อุบาลี
 
 ๒๐. พระเถระองค์ใด ได้รับมอบหน้าที่อุปัฏฐากพระพุทธเจ้า ?
 ก. พระนันทะ
 ข. พระอานนท์
 ค. พระอุบาลี
 ง. พระสิวลี
 
 ๒๑. สัตว์ชนิดใด ที่พระอานนท์ยืนขวางเพื่อไม่ให้ทำร้ายพระพุทธเจ้า ?
 ก. ช้างนาฬาคิรี
 
ข. ม้าสินธพ
 ค. โคอุสุภะ
 ง. พญานาค
 
 ๒๒. การทำสังคายนาครั้งแรก พระอานนท์ทำหน้าที่วิสัชนาเรื่องใด ?
 ก. พระวินัย
 ข. พระสูตร
 ค. พระสูตรและพระอภิธรรม
 
ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๒๓. พระอานนท์ ได้รับยกย่องว่าเป็นผูู้เลิศในด้านใด ?
 ก. มีลาภมาก
 ข. มีฤทธิ์มาก
 ค. มีบริวารมาก
 ง. เป็นพหูสูต
 
 ๒๔. พระอานนท์ดับขันธ์นิพพาน ในท่ามกลางแม่น้ำใด ?
 ก. คงคา
 ข. ยมุนา
 ค. เนรัญชรา
 ง. โรหิณี
 
 ๒๕. พระอุบาลี เป็นบุตรนายช่างใด ?
 ก. ช่างตัดผม
 
ข. ช่างย้อมผ้า
 ค. ช่างเย็บผ้า
 ง. ช่างทอผ้า

๒๖. พระอุบาลีออกบวชพร้อมพระราชกุมารกี่พระองค์ ?
 ก. ๓ พระองค์
 ข. ๔ พระองค์
 ค. ๕ พระองค์
 
ง. ๖ พระองค์
 
 ๒๗. พระอุบาลี ได้รับยกย่องว่าเป็นผูู้เลิศในด้านใด ?
 ก. ทรงจำพระสูตร
 ข. ทรงจำพระวินัย
 ค. มีฤทธิ์มาก
 ง. มีลาภมาก
 
 ๒๘. ในปฐมสังคายนา พระอุบาลีได้รับเลือกให้วิสัชนาเรื่องใด ?
 ก. พระวินัย
 
ข. พระสูตร
 ค. พระอภิธรรม
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๒๙. พระสิวลี เกิดในวรรณะใด ?
 ก. กษัตริย์
 
ข. พราหมณ์
 ค. แพศย์
 ง. ศูทร
 
 ๓๐. พระสิวลี เกิดในเมืองใด ?
 ก. สาวัตถี
 ข. พาราณสี
 ค. กบิลพัสดุ์
 ง. โกลิยะ
 

 ๓๑. พระนางสุปปวาสา เป็นพระมารดาของพระเถระองค์ใด ?
 ก. พระอานนท์
 ข. พระอนุรุทธะ
 ค. พระกิมพิละ
 ง. พระสิวลี
 
 
๓๒. พระราหุล มีความเกี่ยวข้องกับพระพุทธเจ้าในฐานะใด ?
 ก. พระโอรส
 
ข. พระนัดดา
 
ค. พระอนุชา
 ง. พระเชษฐา
 
 ๓๓. พระราหุลออกบวช ที่เมืองใด ?
 
ก. โกลิยะ
 ข. กบิลพัสดุ์
 
ค. ราชคฤห์
 ง. พาราณสี
 
 ๓๔. พระราหุล ได้รับยกย่องว่าเป็นผูู้เลิศในด้านใด ?
 
ก. ให้ทาน
 ข. การศึึกษา
 
ค. ถือธุดงค์
 ง. สันโดษ
 
 ๓๕. พระเถรีองค์ใด แสดงความดีใจเมื่อบิดาอนุญาตให้บวช?
 ก. กีสาโคตรมี
 ข. เขมา
 ค. อุบลวรรณา
 
ง. ปฏาจารา
 
 ๓๖. สถานที่ใด ที่พระอุบลวรรณาเถรีบรรลุเป็นพระอรหันต์ ?
 ก. โรงอุโบสถ
 
ข. โรงอาหาร
 ค. โรงแสดงธรรม
 ง. โรงละคร
 
 ๓๗. พระอุบลวรรณาเถรี ได้รับยกย่องให้เป็นพระอัครสาวิกาเบื้องใด ?
 ก. เบื้องขวา
 ข. เบื้องซ้าย
 
ค. เบื้องหน้า
 ง. เบื้องหลัง
 
 ๓๘. ภิกษุณีองค์ใด ได้รับยกย่องว่ามีความรู้ความชำนาญในพระวินัย ?
 ก. เขมา
 ข. อุบลวรรณา
 ค. ปฏาจารา
 
ง. กีสาโคตมี
 
 ๓๙. สตรีนางใด หลงเข้าใจว่ามียารักษาคนตายให้ฟื้นได้ ?
 ก. เขมา
 ข. อุบลวรรณา
 ค. ปฏาจารา
 ง. กีสาโคตรมี
 
 ๔๐. พระกีสาโคตมีเถรี ได้รับยกย่องว่าเป็นผูู้เลิศในด้านใด ?
 ก. ทรงจีวรเศราหมอง
 
ข. มีลาภ
 ค. มีปัญญา
 ง. มีฤทธิ์
 
 ๔๑. การบูชาในวันเพ็ญเดือน ๓ ตรงกับข้อใด ?
 ก. มาฆบูชา
 
ข. วิสาขบูชา
 ค. อาสาฬหบูชา
 ง. อัฏฐมีบูชา
 
 ๔๒. จาตุรงคสันนิบาต เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือนใด ?
 ก. เดือน ๓
 
ข. เดือน ๖
 ค. เดือน ๘
 ง. เดือน ๑๒
 
 ๔๓. การบูชาในวันเพ็ญเดือน ๖ ตรงกับข้อใด ?
 ก. มาฆบูชา
 ข. วิสาขบูชา
 ค. อาสาฬหบูชา
 ง. อัฏฐมีบูชา
 
 ๔๔. พระพุทธเจ้าปรินิพพาน ตรงกับวันใด ?
 ก. มาฆบูชา
 ข. วิสาขบูชา
 ค. อัฏฐมีบูชา
 ง. อาสาฬหบูชา
 
 ๔๕. วันสำคัญใด ได้รับการรับรองว่าเป็นวันสำคัญสากลของโลก ?
 ก. มาฆบูชา
 ข. วิสาขบูชา
 ค. อัฏฐมีบูชา
 ง. อาสาฬหบูชา
 
 ๔๖. วันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ตรงกับวันใด ?
 ก. มาฆบูชา
 ข. วิสาขบูชา
 ค. อัฏฐมีบูชา
 
ง. อาสาฬหบูชา
 
 ๔๗. วันอัฏฐมีบูชา มีขึ้นหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานได้กี่วัน ?
 ก. ๕ วัน
 ข. ๖ วัน
 ค. ๗ วัน
 ง. ๘ วัน
 
 
๔๘. อาสาฬหบูชา คือการบูชาในวันเพ็ญเดือนใด ?
 ก. เดือน ๓
 ข. เดือน ๖
 ค. เดือน ๘
 
ง. เดือน ๑๒
 
 ๔๙. พระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา เกิดขึ้นในวันใด ?
 
ก. มาฆบูชา
 ข. วิสาขบูชา
 ค. อัฏฐมีบูชา
 ง. อาสาฬหบูชา
 
 
๕๐. เหตุการณ์ใด เกิดขึ้นในวันอาสาฬหบูชา ?
 
ก. ประสูติ
 ข. ตรัสรู้
 ค. แสดงปฐมเทศนา
 
ง. ปรินิพพาน

ให้เวลา ๕๐ นาที


ธรรมศึกษา ชั้นโท

ปัญหาและเฉลย วิชา อุโบสถศีล (วินัย)

ระดับมัธยมศึกษา

สอบในสนามหลวง พ.ศ. ๒๕๖๖

๑. ข้อใด เป็นวิธียกระดับจิตใจของมนุษย์ให้สูงขึ้นกว่าการถือศีล ๕ ?
 ก. ถืออุโบสถ
 
ข. สวดมนต์
 ค. มีจิตอาสา
 ง. เล่นกีฬา
 
 ๒. อุโบสถศีล คือการรักษาศีลประเภทใด ?
 ก. ศีล ๕
 ข. ศีล ๘
 
ค. ศีล ๑๐
 ง. ศีล ๒๒๗
 
 ๓. ข้อใด เป็นส่วนสำคัญของอุโบสถที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ ?
 ก. ใส่ชุดขาว
 ข. โกนผู้ม
 ค. ถอสรณคมน์
 
ง. อดอาหาร
 
 ๔. การถืออุโบสถ บัญญัติไว้สำหรับใคร ?
 ก. พระภิกษุ
 ข. คนทรงเจ้า
 ค. หมอดู
 ง. อุบาสกอุบาสิกา
 
 
๕.ข้อใด เป็นวัตถุประสงค์ของการรักษาอุโบสถในพระพุทธศาสนา ?
 ก. แก้จน
 ข. แก้บ
 ค. ขัดเกลากิเลส
 
ง. เสริมดวง
 
 ๖.อุโบสถในสมัยพุทธกาลประกอบด้วยข้อใด ?
 ก. สรณะและศีล ๘
 
ข. อดอาหาร
 ค. ทรมานตน
 ง. งดกินเนื้อสัตว์
 
 ๗.ข้อใด ไม่ปรากฏในอุโบสถก่อนพุทธกาล ?
 ก. อดอาหาร
 ข. สรณคมน์
 
ค. วันรักษา
 ง. พักการงาน
 
 ๘. การนับถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง เรียกว่าอะไร ?
 
ก. บรรพชา
 ข. อุปสมบท
 ค. ไตรสรณคมน์
 
ง. ลาสิกขา
 
 ๙. ใครนับถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ?
 ก. ชาวพุทธ
 
ข. อาชีวก
 
ค. นิครนถ์
 ง. พราหมณ์
 
 ๑๐. คำว่า ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง หมายถึงรัตนะใด ?
 ก. พระพุทธ
 
ข. พระธรรม
 ค. พระสงฆ์
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๑๑. คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า คือรัตนะใด ?
 ก. พระพุทธ
 ข. พระธรรม
 ค. พระสงฆ์
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๑๒. คำว่า ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า เปรียบเทียบกับรัตนะใด ?
 ก. พระพุทธ
 ข. พระธรรม
 ค. พระสงฆ์
 
ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๑๓. ข้อใด เป็นการแสดงตนว่าเป็นชาวพุทธั ?
 ก. กินเจ
 ข. ใส่ชุดขาว
 ค. โกนผู้ม
 ง. รับสรณคมน์
 
 ๑๔.  สรณคมน์ของพระอริยบุคคลชั้นใดขึ้นไป ไม่ขาดตลอดชีวิต ?
 ก. พระโสดาบัน
 
ข. พระสกทาคามี
 ค. พระอนาคามี
 ง. พระอรหันต์
 
 ๑๕. การนับถือพระรัตนตรัยสิ้นสุดลงเมื่อใด ?
 ก. เกิด
 ข. แก่
 ค. เจ็บ
 ง. ตาย
 
 ๑๖. ความสงสัยในพระรัตนตรัย ทำให้สรณคมน์เป็นอย่างไร ?
 ก. เศร้าหมอง
 
ข. บริสุทธิ์
 ค. มั่นคง
 ง. ขาด
 
 ๑๗. ข้อใด เป็นการประพฤติไม่เอื้อเฟื้อต่อพระรัตนตรัย ?
 ก. รังเกียจ
 ข. ดูหมิ่น
 ค. ขาดความเคารพ
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 ๑๘. อุโบสถศีลข้อที่ ๑ ผูู้รักษาต้องงดเว้นอะไร ?
 ก. ฆ่าสัตว์
 
ข. ลักทรัพย์
 ค. พูดโกหก
 ง. ดื่มสุรา
 
 ๑๙. อุโบสถศีลข้อที่ ๑ ต้องการให้เห็นความสำคัญของเรื่องใด ?
 ก. การเรียน
 ข. การคบเพื่อน
 ค. การพูด
 ง. การมีชีวิต
 
 
๒๐. ผูู้รักษาอุโบสถตบยุงให้ตาย ทำผู้ิดศีลข้อใด ?
 ก. ข้อที่ ๑
 
ข. ข้อที่ ๒
 
ค. ข้อที่ ๔
 ง. ข้อที่ ๕
 
 ๒๑. ขโมยของเพื่อน เป็นข้อห้ามของอุโบสถศีลข้อใด ?
 ก. ข้อที่ ๑
 ข. ข้อที่ ๒
 ค. ข้อที่ ๔
 ง. ข้อที่ ๕
 
 ๒๒. อุโบสถศีลข้อที่ ๒ ผูู้รักษาต้องงดเว้นอะไร ?
 ก. ลักขโมย
 
ข. หลอกลวง
 ค. โกหกกัน
 ง. ชกต่อยกัน
 
 ๒๓. อุโบสถศีลข้อที่ ๓ ผูู้รักษาต้องงดเว้นอะไร ?
 ก. เล่นกีฬา
 ข. มีเพศสัมพันธ์
 ค. ดูดกัญชา
 ง. หนีเรียน

 ๒๔. แม้เป็นสามีภรรยากัน เมื่อรักษาอุโบสถศีลต้องงดเว้นอะไร ?
 ก. ดื่มเหล้า
 ข. เล่นไพ่
 ค. เล่นหวย
 ง. มีเพศสัมพันธ์
 
 
๒๕. อุโบสถศีลข้อที่ ๔ ผูู้รักษาต้องงดเว้นอะไร ?
 
ก. ยิงนก
 ข. ตกปลา
 ค. พูดโกหก
 
ง. เล่นฟุตบอล

๒๖. ผูู้รักษาอุโบสถศีลข้อที่ ๔ ต้องไม่พูดคำใด ?
 
ก. คำโกหก
 ข. คำยุแหย่
 
ค. คำหยาบ
 ง. ถูกทุกข้อ
 
 
๒๗. อุโบสถศีลข้อใด ผูู้รักษาควรคิดก่อนพูด ?
 
ก. ข้อที่ ๑
 ข. ข้อที่ ๒
 ค. ข้อที่ ๔
 
ง. ข้อที่ ๕
 
 ๒๘. อุโบสถศีลข้อที่ ๕ ผูู้รักษาต้องงดเว้นอะไร ?
 
ก. อาหารมื้อเย็น
 ข. ของมึนเมา
 
ค. เล่นดนตรี
 ง. เครื่องสำอาง
 
 
๒๙. เครื่องดื่มประเภทใด ต้องงดเว้นในขณะรักษาอุโบสถศีล ?
 ก. น้ำเมา
 
ข. น้ำหวาน
 
ค. น้ำอัดลม
 ง. น้ำผู้ลไม้
 
 ๓๐. ในอุโบสถศีลข้อที่ ๕ กล่าวว่า อะไรเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ?
 ก. ครีมทาผิว
 ข. สบู่หอม
 ค. น้ำหอม
 ง. ของมึนเมา
 
 
๓๑. อุโบสถศีลข้อที่ ๖ ผูู้รักษาต้องงดรับประทานอาหารมื้อใด ?
 ก. เช้า
 ข. ก่อนเที่ยงวัน
 ค. วิกาล
 
ง. ถูกทุกข้อ
 
 
๓๒. เวลาหลังเที่ยงวันไปจนถึงเช้าของวันใหม่ เรียกว่าอะไร ?
 ก. วินาที
 ข. วิกาล
 
ค. นาที
 ง. ชั่วโมง
 
 
๓๓. เครื่องดื่มประเภทใด อนุญาตให้ผูู้รักษาอุโบสถดื่มได้ ?
 ก. น้ำเมา
 ข. น้ำผึ้
 
ค. น้ำกระท่อม
 ง. น้ำกัญชา
 ๓๔. อุโบสถศีลข้อที่ ๗ ผูู้รักษาต้องงดเว้นอะไร ?
 
ก. ออกกำลังกาย
 ข. ทำการบ้าน
 ค. ฟ้อนรำ
 
ง. เล่นเกมส์
 
 ๓๕. ข้อใด ไม่ใช่ข้อห้ามของอุโบสถข้อที่ ๗ ?
 ก. ฟังธรรมะ
 
ข. ดูมหรสพ
 
ค. แต่งหน้าทาปาก
 ง. ฉีดน้ำหอม
 
 ๓๖. อุโบสถศีลข้อที่ ๗ ขาดเพราะสาเหตุใด ?
 
ก. ดื่มน้ำกระท่อม
 ข. ดูมหรสพ
 
ค. สูบกัญชา
 ง. พูดเล่น
 
 
๓๗. ที่นั่งที่นอนสูงใหญ่ เป็นข้อห้ามของอุโบสถศีลข้อใด ?
  ก. ข้อที่ ๒
 ข. ข้อที่ ๔
 
ค. ข้อที่ ๖
 ง. ข้อที่ ๘
 
 
๓๘. อุโบสถศีลข้อที่ ๘ ผูู้รักษาได้ฝึกตนไม่ให้ยึดติดในเรื่องใด ?
 ก. ความหรูหรา
 
ข. ความสวยงาม
 
ค. การกิน
 ง. การท่องเที่ยว
 ๓๙. การสมาทานอุโบสถศีล ควรสมาทานในเวลาใด ?
 ก. เช้าตรู่
 
ข. หลังเที่ยงวัน
 
ค. บ่าย
 ง. ค่ำ
 
 
๔๐. การสมาทานอุโบสถศีล ปัจจุบันนิยมสมาทานกับใคร ?
 ก. พ่อแม่
 ข. พระสงฆ์
 
ค. คนทรงเจ้า
 ง. โหราจารย์
 ๔๑. ข้อใด มีอยู่ในพิธีรักษาอุโบสถศีล ?
 
ก. ถวายทาน
 ข. ตักบาตร
 ค. สมาทานศีล
 
ง. ปล่อยปลา
 
 ๔๒. ปกติอุโบสถ กำหนดให้รักษานานเท่าไร ?
 ก. หนึ่งวันหนึ่งคืน
 
ข. ๓ วัน
 ค. ๑๔ วัน
 ง. ๔ เดือน
 
 ๔๓. ปฏิชาครอุโบสถ กำหนดให้รักษาคราวละกี่วัน ?
 ก. ๒ วัน
 ข. ๓ วัน
 ค. ๗ วัน
 ง. ๑๕ วัน
 
 ๔๔. ปาฏิหาริยอุโบสถ กำหนดให้รักษาต่อเนื่องนานกี่เดือน ?
 ก. ๑ เดือน
 ข. ๒ เดือน
 ค. ๓ เดือน
 ง. ๔ เดือน
 
 
๔๕. โคปาลกอุโบสถ เปรียบผูู้้รักษาอุโบสถเหมือนอะไร ?
 ก. คนเลี้ยงโค
 
ข. คนเลี้ยงแพะ
 ค. คนเลี้ยงแกะ
 ง. คนเลี้ยงไก่
 
 ๔๖. นิคคัณฐอุโบสถ เป็นวิธีปฏิบัติตนของคนรักษาอุโบสถเหมือนใคร ?
 ก. ฤๅษี
 ข. นิครนถ์
 
ค. หมอดู
 ง. หมอผี
 
 ๔๗. อริยอุโบสถ เป็นวิธีรักษาอุโบสถตามแบบอย่างของใคร ?
 ก. พระศิวะ
 ข. พระนารายณ์
 ค. พระอริยะ
 ง. พระพรหม
 
 ๔๘. อุโบสถใด ผู้รักษาได้รับอานิสงส์มากกว่าอุโบสถอย่างอื่น ?
 ก. โคปาลกอุโบสถ
 ข. นิคคัณฐอุโบสถ
 ค. อริยอุโบสถ
 ง. ปกติอุโบสถ
 
 ๔๙. การรักษาอุโบสถศีล จะได้รับอานิสงส์มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับอะไร ?
 ก. การตั้งใจ
 
ข. การสวดมนต์
 ค. การทำสมาธิ
 ง. การให้ทาน
 
 ๕๐. การรักษาอุโบสถไม่ให้ขาดหรือด่างพร้อย ย่อมได้รับผลสูงสุดตามข้อใด ?
 ก. รูปสวย
 ข. รวยทรัพย์
 ค. ดับทุกข์ได้
 
ง. ไปสวรรค์

ให้เวลา ๕๐ นาที